สัมภาระอีกพอสมควร… รู้สึกว่าตอนเร่งแซงอืดจนรู้สึกได้ครับ… ใช้ OD แล้วก็ยังอืด… แต่ถ้าได้พุ่งแล้ววิ่งฉิวเลยครับ… การทรงตัวเยี่ยมมาก…
แล้วลำดับถัดมาก็คือไม่เงินเฟ้อ ก็เงินฝืดฯ… นั่นขึ้นกับว่า”ยาแรง”จะออกมารูปแบบไหนครับ… เหมาะสำหรับคนขับรถ Low Tech เพราะพกแผนที่ไปด้วย ไม่ต้องง้อ GPS ไงครับ… แล้วมันอ้อนแหลกเลยครับ…
แต่บังเอิญเขาขายแพงเกินไปแค่ 1.5 ล้านบาทเท่านั้นเองครับ… 2.คลาสนี้เป็น ซีเซกเม้นท์ครับ A-class น่าจะไปเทียบกับพวกบีเซกเมนท์มากกว่าครับ… ขับจนเบื่อแร๊ะ..TDCi… หึๆๆ วันนี้ก็เพิ่งมุดไปพัทลุงมา ไปกลับ200โล…. เปิดใจ “เอ๋ ไพโรจน์” ลงทุน “วัยอลวน 5” 30 ล้าน แต่กลายเป็นว่า… เอ ศุภชัย เคลื่อนไหวแล้วหลังโทรเคลียร์ใจแมท ความจริงทั้งหมดมีอยู่ว่า…
เครื่องเทอร์โบมันจะมีช่วงแรงบิดยังไม่มา เพราะเทอร์ไบน์จะหมุนอัดไอดีเมื่อรอบเครื่องถึงจุดที่กำหนดไว้ฯ นายสมชายยังไม่ได้ค้นดูว่าในรายงานทดสอบของจริงเขามีว่าอย่างไรกันบ้างครับ… แต่สำหรับซูปเปอร์ชาร์จมันอัดไอดีตั้งแต่สตาร์ตเครื่องเลย มันเลยกระฉับกระเฉงได้สม่ำเสมอกว่า… เครื่องเบ็นซ์เป็น 1.6 มีซูปเปอร์ชาร์จช่วยครับ, 1.6 แต่แรงบิดสูง และมาที่รอบต่ำ…
สับเกียร์ตรงนั้นเพราะรอบมันตันน่ะครับ เร่งต่อรอบมันก็ไม่ไปแล้ว เลยสับเกียร์ให้รอบมันต่ำลงมาหาย่านแรงบิดสูง… จะได้เร่งจากรอบที่ต่ำกว่า(แต่แรงบิดสูงฯ) ไต่ขึ้นไปหารอบสูงที่ว่านั้นใหม่ไงครับ… แรงม้าสูง แต่แรงบิดเนิบไม่ฉูดฉาดจะขับยากกว่าครับ, ขับมุดในเมืองต้องสับเกียร์เลี้ยงรอบ เมื่อยมือเมื่อยเท้าและสมาธิเสียครับ… มีดีอย่างเดียวคือเวลารอบสูงๆ เสียงมันหวานหูเท่านั้นเองครับ… คืออยากบอกว่าถ้าเอาไปแข่งกันแล้วบังเอิญเบ็นซ์สู้ไม่ได้ ก็ไม่ได้แปลว่าเยอรมันแพ้ครับ เพราะมันมีเรื่องอื่นด้วย ตัวอย่างเช่นขี่แจ๊สแล้วไถลในโค้งที่ภูเก็ตฯ ที่คุณจ้าวบอกว่าเป็นโค้งปราบเซียนฯ …
แต่ว่าก็ว่าเถิด… นายสมชายติดใจพวงมาลัยเทวดาครับ… นายสมชายว่าหากจะให้ซื้อวันนี้พรุ่งนี้…
มีระบบช่วยเหลือครบ ตั้งแต่พวงมาลัยเทวดาเข้าจอดได้เอง, ระบบควบคุมการลื่นไถลตัดแรงบิดเครื่องเวลารถไถล+ABS/Airbag, ระบบเกาะตูดรถคันหน้า/เบรคไม่ให้ชนท้าย… ถ้าเพิ่มอีกค่อนล้าน… จะมีรถหรูโผล่มาให้เลือกอีกพะเรอเกวียนครับ ก็ปริ่ม three ล้านแล้วนี่นา, เป็นนายสมชายก็จะไปมองคันใหญ่กว่าเดิม เกรดสูงกว่า แต่เป็นรุ่นถูกของเกรดนั้นอีกแหละครับ… ในขณะที่ออปตร้า 1.eight ตัวเลขแรงบิดสูงกว่าอัลติส แต่มาที่รอบสูงกว่า, นั่นแปลว่าเมื่อวิ่งบนไฮเวย์ เร่งจาก one hundred วืดเดียวขึ้นที่ a hundred and fifty แบบสบายๆโดยที่มือซ้ายยังไม่ทันวางขนมที่กินค้างอยู่ครับ…
ถามสเปคคร่าวๆแรงม้า one hundred seventy PS แรงบิดน่าจะมากกว่า four hundred NM… เครื่อง ๓.๒ ๑๖๖ แรงม้าที่ ๔๐๐๐ รตน แรงบิด ๓๕๑ นิวตันเมตรที่ ๒๐๐๐ รตน Hyper Common Rail Turbo intercooler. เครื่อง ๒.๕ ๑๗๘ แรงม้าที่ ๔๐๐๐ รตน แรงบิด ๔๐๐ นิวตันเมตรที่ ๒๐๐๐ ถึง ๒๘๕๐ รตน Hyper Common Rail VG Turbo intercooler. วิ่งขึ้นเขาค้อ ต่อให้เร่งไม่แซงยังอืดเลยครับ… จะให้ไม่อืดคงต้องปิ๊กอัพรถเปล่า หรือมีแต่คนนั่งไม่ได้บรรทุกหนักกระมังครับ…
ตัวอย่างเช่นโหลดแยะ หรือบรรทุกหนัก หรือขึ้นเขา ฯลฯ หรืออะไรก็ตามแต่ ที่ไม่สามารถไปได้ถึงจุดแรงม้าสูงสุด… รอบมันตันเร็วครับ… รอบสูงสุดมันจะอยู่ที่แรงม้าสูงสุดนั่นแหละ แล้วเร่งจากรอบ 1600 รอบแผล็บเดียวมันก็ไต่ขึ้นไปที่ 4000 กว่ารอบแล้วก็รอบตันอยู่ตรงนั้นครับ…
ขยายความว่าใช้สายหนีบขั้วลบต้นทางแล้วลากมาหนีบขั้วลบที่ปลายทาง แล้วเอาอีกหนึ่งสายหนีบขั้วบวกต้นทางลากมาหนีบขั้วบวกที่ปลายทาง, สรุปว่าขั้วแบ็ตต่อกับขั้วแบ็ตครับ ไม่มีสายไฟอะไรไปหนีบกราวนด์ตัวถังรถเลย… ส่วนเรื่องผิดกฎจราจรหรือไม่นั่นไม่แน่ใจ เพราะกำกึ่งเรื่องแซงด้านซ้าย กับเรื่องแซงในที่คับขัน… แต่อย่างไรก็ดี หากเป็นถนนหลายเลน และแซง(ย้ายเลน)ในขณะที่เส้นบนถนนเป็นเส้นประ และไม่ทำให้คันอื่นรอบข้างสะดุด, สันนิษฐานก่อนว่ามุดซ้ายขวาครั้งนั้นไม่ผิดกฎจราจรครับ…
แกกำลังให้คนที่ไม่ได้เข้าใจลึกซึ้งคิดไปง่ายๆว่าให้เปลี่ยนเกียร์ที่แรงม้าสูงสุด แล้วรอบจะตกป้วนเปี้ยนไนที่ย่านแรงบิดสูงสุดโดยอัตโนมัติ .. หากไม่สนแรงบิดฯ มันก็เร่งไม่ขึ้นครับ, ที่รอบสูงสุด(แรงม้าสูงสุด)มันมีแรงบิดน้อยกว่าก็เร่งขึ้นช้ากว่าครับ… แรงบิดมันคือ Force สำหรับชนะแรงเสียดทานครับ… เท่ห์อย่าบอกใครครับ เบ็นซ์สีแดงแจ๋มันบอกความเป็นตัวตน…
น้าดุลย์ต้องทดสอบด้วยการเอาไฟฉายส่อง”ถุงลม”ให้แสงเงยขึ้นไปหาคางครับ… การขับรถถอยเข้าจอดในซองแบบนี้เป็นแบบฝึกหัดต้นๆของคนหัดขับรถเลยครับ… ถอยเข้าจอดในซองแบบนี้ไม่ได้ แสดงว่าสาวคนนี้แย่เอามากๆ ไม่มีความพร้อม คือไม่หัดขับตามวิธีมาตรฐาน แล้วยังสร้างความเสียหายให้แก่รถคันอื่นด้วยครับ…
น้าเบิ้มขายใบจองเลยครับ… นักเล่นหุ้นซะอย่าง, ใบจองก็ทำกำไรได้เหมือนหุ้นแหละครับ… คันล่าสุดที่”ตั้งใจ”ให้ขับสนุกโดยเฉพาะเลยตั้งแต่อยู่บนโต๊ะเขียนแบบก็คือ Toyota 86 กับคู่แฝดซูบารุไงครับ… ตามที่ว่าเป๊ะเลย แถมยังขับหลัง บาลานซ์ นน. หน้า/หลัง ได้ 50/50 อีกต่างหาก…
เห็นขนาดกล้ามหน้าขาแล้วบอกได้เลยว่า Squat เกิน one hundred กิโลไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้แล้วครับ… นายสมชายจะเพิ่มน้ำหนักขึ้นบ่าตามไปให้ได้อย่างนี้มั่งครับ… นายสมชายว่ามันบึกบึนกว่า A180 อ่ะ… แล้วที่สำคัญคือสงสัยว่าราคาจะต่ำกว่า แต่ความหรูในคลาสเดียวกันครับ… สเปคเหมือนตั้งใจทำมาไล่บี้ A180 เลย, แต่แสบกว่าก็คือมันเป็น Cross Country (แปลว่าสำหรับ”ขาลุย”)มาตั้งแต่บนโต๊ะออกแบบครับ ซึ่งไม่เหมือนกับ A180 ตั้งใจให้หนุ่มสาวที่ประสบความสำเร็จอายุน้อย(แปลว่าพวกหนุ่มสาวออฟฟิส – ไม่ค่อยลุย)… แต่BMWมีฺBSIตั้ง5ปี เฉพาะส่วนนี้ผมว่าก็เกิน1-2แสนแล้วมั้งครับพี่หมอรุต เห็นบางคนเคลมอะไหล่แพงๆกันเฉย ยางเส้นละหมื่นกว่าก็เคลมได้4ล้อ แค่ข้อหากินซ้าย บางคนเคลมทีเป็นแสน โหยย….
ส่วนเรื่องอื่นต้องอ่านและคิดตามในมุมมองแต่ละท่านก็แล้วกันครับ… แสดงว่ามีรายได้หลายทางแน่เชียวครับ… เงินเดือน 7000 บาทนี่น้อยกว่าค่าแรงงานขั้นต่ำวันละ 300 บาทเลยนะครับ… หนึ่งเสียงเท่ากัน แต่สมองมันไม่เท่ากัน, แถมยังจ่ายภาษีไม่เท่ากัน, แต่อยากสบายเหมือนกัน…
ส่วนโฟกัสเครื่อง 2000 ซี.ซี. แรงบิดสูงมาที่รอบสูงกว่า, จากเท่าที่ทดลองขับซีคลาสแค่ไม่กี่นาที นายสมชายชอบฟิลลิ่งเครื่องซูปเปอร์ชาร์จมากกว่าครับ คือมันเปลี่ยนเกียร์เร็วกว่า สามารถเร่งเครื่องที่รอบต่ำกว่า และวิ่งแช่ทางไกลความเร็วเดินทางที่รอบเดินเบาง่ายกว่าครับ… นายสมชายขับเชพโรเล็ตอยู่คันนึง คือ Optra 1.8 LT เมื่อแรกขับใหม่ๆเหนื่อยใจมากครับ เร่งแล้วไม่ไปทันที ทำให้คันนี้กลายเป็นรถสำหรับวิ่งทางไกล ไม่เหมาะสำหรับขับในเมือง… ในขณะที่เมียนายสมชายกลับชอบ เพราะเธอสนุกกับการคาดเดา/ทำนายพฤติกรรมรถยนต์รอบข้าง และชิงจังหวะเร่ง/เบรค ล่วงหน้าก่อนที่คันนั้นๆจะเบรคหรือเร่งจริงๆ ซึ่งเธอทำได้ดี ในขณะที่นายสมชายขอขับโตโยต้าอัลติสดีกว่า เพราะ Throttle response ดีกว่าเชพฯ ครับ…
ถ้าราคาไล่เรี่ยกัน นายสมชายชอบ IS-250 มากกว่า C-Class น่ะครับ… เคยทำท่าเป็นคนรวยไปลองขับที่เต๊นท์แถวรัชดามาแล้วครับ ขับสนุกมาก, แต่มันดั๊นนน แพงกว่า C-Class แยะเลยเชียวครับ(ในรุ่น/ปี ที่เทียบกันได้)… แต่ในขณะที่อัลติส 1.6 หากต้องการจะเร่งจาก 100 ขึ้นไปที่ 150 ต้องวางขนมก่อน แล้วเอามือจับพวงมาลัย 2 มือ จากนั้นกดคันเร่งให้เครื่องคิกดาวน์… จากนั้นต้องรอรอบให้มันลากขึ้นจนเสียงครื่องกระหึ่ม(กว่าออปตร้า 1.แปด)ครับ… นายสมชายพ่วงแบ็ตจากอัลติสใส่ออพตร้าของเมียบ่อยๆ ใช้วิธีเอาสายพ่วงหนีบขั้วแบ็ตทั้งสองคันครับ ไม่ได้หนีบลงกราวด์ตัวถัง…
เทียบกับเครื่อง 3ZZ-FE รุ่นที่วางในอัลติสโฉมที่เพิ่งตกรุ่นกัน โดยทั้งคู่ 1.6 เหมือนกัน, สเปค 3ZZ-FE คือ 109 แรงม้า ที่ 6000 rpm. แรงบิด a hundred and fifty นิวตั้นที่ 3800 rpm. แต่ถ้าคันดีเซลเป็นเกียร์ CVT ที่เลี้ยงรอบได้แถวแรงบิดสูงสุด แล้วเร่งความเร็วด้วยการเปลี่ยนอัตราทดไปเรื่อยๆ… คนเบ็นซินจะสู้ไม่ได้ทั้งต้นและปลายครับ, นั่นคือแรงบิดแยะกว่าจะได้เปรียบครับ… ป้าย”มือใหม่หัดขับ”ยังแสดงให้เห็นว่าฉันตั้งใจ”ขับ”แต่เป็นเพราะเป็นมือใหม่ เลยทำนองเตือนคันอื่นให้ป้องกันตัวเองด้วยการอยู่ให้ห่างฉันฯ แต่อีกไม่นานฉันก็เป็นมือเก่าได้…
รปุนี้น่ากลัวครับ ทะเบียน กทม. แล้วสงสัยว่าโดนชนแถวถูเขาภาคเหนือครับ, เพราะเห็นรอยตัดภูเขาเห็นดินลูกรังสีแดงแสดงว่าเป็นภูเขาสูงแล้วลงเนินเป็นหุบลึก เนื่องจากถ้าภูเขาเตี้ยเช่นอิสานหรือภาคกลาง, เขาไม่ค่อยตัดภูเขาเป็นถนน… แต่ถ้าเป็นภูเขาสูง+มีหุบเขาอยู่ข้างล่าง จะตัดภูเขาดินฯ เพื่อเอาเนื้อดินไปถมหุบเขาให้เป็นถนนครับ… ส่วนรถ SUV ก็ใกล้เคียงกัน แต่เหมาะสำหรับพวกถนนไม่ค่อยดีครับ เช่นซอยน้ำท่วมบ่อย หรือไปเยี่ยมแม่ยายต่างจังหวัดถนนไม่ค่อยดีบ่อยๆ… เรื่องความสนุกเวลาขับ โดยเฉพาะเรื่องทรงตัวในทางโค้งสู้รถเก๋งเล็กไม่ได้ครับ…
แรงม้าเกิดจากคำนวณเอาแรงบิดคูณกับรอบเครื่องแล้วแปลงหน่วยด้วยค่าคงที่… ดังนั้นหากจะให้แรงบิดมากกว่าเดิมโดยผลลัพธ์แรงม้าเท่าเดิม ณ.ที่รอบเครื่องขณะใดขณะหนึ่ง, ก็แปลว่ารอบเครื่องจะต้องลดลงเพื่อให้ผลลัพธ์คือแรงม้าเท่าเดิม… นายสมชายมองแบบนั้นครับ…
ส่วนคันที่อัตราเร่งไม่ดี ช่วงล่างไม่ดี กว่าจะโยกออกมาได้มีหวาดเสียวให้คันอื่นสะดุดฯ เขาก็จะเหยียบเบรคมั่ง เร่งหนีมั่ง ระหว่างก่นด่าฯ… นอกเหนือกับบีบแตรด่าลั่นด่าถนนครับ… ก่อนอื่นต้องบอกว่าสังฆราชกำลังถามเณรครับ(นายสมชายกล้ามเล็กกว่าคุณคาร์แยะครับ)… หากคุณคาร์ฯ ใช้รถออดี้…
เดี๋ยวก็คุ้นตาแล้วมองสวยครับ, ที่จริงนายสมชายมองสวยดีนะครับ… รูปร่างเหมือนเอา BMW ซีรี่ส์ three มาคลุมผ้า แล้วไถเส้นสาย+เหลี่ยมออกให้เหลือมนๆ, จากนั้นนั่งวาดเส้นสาย+ริ้วตะเข็บตัวถัง+ลากเหลี่ยมแนว+ใส่ไฟห้าหลัง ฯลฯ ใหม่ครับ… แต่ที่คุณ TakeFive บอกว่า “อัตราเร่งดีที่สุด ต้องสับเกียร์ที่ช่วงแรงม้าสูงสุด ไม่ใช่บิดสุงสุด”ผมไม่เห็นด้วย .. แต่ที่คุณ TakeFive บอกว่า”อัตราเร่งดีที่สุด ต้องสับเกียร์ที่ช่วงแรงม้าสูงสุด ไม่ใช่บิดสุงสุด” ผมไม่เห็นด้วย .. นายสมชายว่าต้องทำความเข้าใจกับคำศัพท์แรงบิด มาจาก Torque นั่นคือแรงที่กระทำครับ หรือ second of force แปลว่าแรงที่กระทำต่อแกนหมุน… แต่แรงม้า Horse Power คือพลังงาน Energy ครับ…
แนะนำรีบให้เอาไฟแช็กลนคางเลยครับ, ท่านว่าให้รีบทำน้ำมันพรายเลย… ออพตร้าฯ กินแบ็ตมาก แบ็ตขนาด sixty five แอมป์ ใช้อยู่ปีกว่าๆ หากสตาร์ทหน่วงตอนเช้าๆ วันถัดมาต้องรีบเปลี่ยนแล้วครับ ไม่งั้นสตาร์ทไม่ติด… ไม่เหมือนอัลติส แบ็ตลูกเล็กกว่า ใช้นานประมาณ ปี, แล้วที่แสบก็คือหากถอดแบ็ตอัลติสยกมาพ่วงเฉยๆ ออพตร้าสตาร์ทไม่ติด ต้องใช้วิธีใส่กับอัลติส แล้วเดินเครื่องให้ไดชาร์จช่วย ถึงจะได้ไฟแรงพอสตาร์ทรถออพตร้าครับ… แต่ไม่ได้หมายถึงกายบริหารมือเปล่าเช่นวิดพื้นหรือดึงข้อครับ… สำหรับวิธีการเริ่มเล่นเหวทนั้นต้องศึกษาให้ดีก่อน หากเล่นไม่ถูกต้องจะมีอันตรายแก่กล้ามเนื้อ กระดูก หรือข้อเอาง่ายๆ แล้วอาการบาดเจ็บบางอย่างสามารถเป็นถารคือตลอดชีวิตครับ…
ข้ามปีใหม่หรือเปล่าครับ… คุณซับเคยบอกว่าสาวมีคุณลักษณะแบบนี้ชอบผายลมตอนเช้าตรู่ครับ… เธอจะตื่นนอนแล้วจะชูมือสุดแขน แหงนหน้าสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด แล้วก็ผายลมเสียงดังสนั่นครับ…
ในขณะที่แรงบิดดี จะมุดเข้าช่องที่ว่างได้แบบเว้นระยะห่างคันหน้าคันหลังไม่มีหวาดเสียว เพราะจังหวะคมและลื่นไหลครับ… เพราะเรื่องมันง่าย ก็แค่ทดลองเองแค่ทีเดียวก็รู้แล้วครับ… เถียงกันเหมือนเด็กเพิ่งหัดขับรถเป็น เหมือนขับแต่ในกระดาษ+จินตนาการ แต่ไม่เคยลองของจริงครับ… ตลาดหุ้นคือดัชนีระบบเศรษฐกิจที่ดีตัวหนึ่ง, ในทุกครั้งที่เกิดวิกฤติทางการเงินจะส่งผลกับตลาดหุ้นก่อน แล้วลามปามออกไปหาร้านค้าย่อยขายสินค้าอุปโภคบริโภค แล้วออกไปตลาดแบกะดินทั่วไปครับ…
จะพูดกี่ครั้งผมก็ยัง ยืนยันชัดเจน ตามข้อเท็จจริงข้างบนนี้เช่นเดิม .. ถ้ายังสงสัยก็กลับมาอ่านใหม่นะครับ คำตอบเหมือนเดิม … เรื่องพื้นฐานฟิสิกส์มันสำคัญก็ใช่ครับ, เปิด Post มาด้วยหลักการทางฟิสิกส์ อธิบายหลักพื้นฐาน หากจะแย้งก็คงต้องไปค้นกูเกิ้ลเอามาแย้ง แล้วก็ไม่ต้องค้นจะดีกว่า เพราะเรื่องหลักการมันก็เหมือนกันแหละครับ… เพราะรถติดเหมือนกันอยู่บนถนนเดียวกัน…
แต่ป้าย”ถ้าเค้าผิด เค้าขอโทษ”นี่แสดงเจตนาให้เห็นว่าตั้งใจ”อ้อน”ครับ(ดูจากสรรพนาม”เค้า”แทนที่จะเป็นผม ดิฉัน หรือข้าพเจ้า)… ตามรูปนี้ ถ้าให้นายสมชายเดาฯ อาจเกิดได้จากมีใครสักคันหนึ่งในระหว่าง 2 คันที่ชนกับโดนชนเข้าโค้งแบบ”ตัดโค้ง”ครับ… เวลาตัดโค้งมักใช้ความเร็วสูงสุดเท่าที่ยังไม่ไถล แล้วช่วงนั้นหากมีอะไรสะดุด(เช่นเจอรถสวน) รถจะมีโอกาสหลุดโค้งสูง เมื่อหลุดโค้งแล้วเสียหลักขวางถนน(หรือคันอื่นหลุดโค้งขวาง) เลยโดนชนด้านข้างครับ… เห็นรูปด้านหน้าแล้ว บอกได้เลยว่าเธอคนนี้ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายครับ…
โค้งนั้นถ้าไถลหลุดโค้งแล้วฝีมือเท่ากัน รถคันไหนที่ไม่มีระบบช่วยเหลือก็จะมีโอกาศแย่มากกว่าไงครับ… ตามรูปล้อหลังโย้ ตัวถัง+โครงหลังคาโย้ทิศทางเดียวกัน, ถนนข้างหน้าตรง… นี่ยังไม่นับหน้าท้องเธอใหญ่ สำหรับสาวอายุขนาดนี้ครับ, แสดงว่ากินเก่ง แต่นั่งๆนอนๆ… เรื่องรถยนต์ล็อตแรก… อัลติสนายสมชายก็ได้รถประกอบญี่ปุ่นครับ ซื้อเมื่อปี 2001 โดยไม่เห็นรูปเลย มีข่าวปุ๊บจองปั๊บ, ได้ ABS AirBag และเกียร์ Super ECT ทั้งที่สเปคถูกสุด ซึ่งตอนหลังโตโยต้าตัดออปชั่นนี้ไปจากรุ่นถูกสุด เมื่อประกอบในประเทศ ทั้งที่ราคาแพงขึ้น… น้าเบิ้มเอาโฟกัสรุ่น Top เลยครับ, แรงม้าแรงบิดเทียบกับขนาด/น้ำหนักรถดีมาก…
แต่ไม่ว่าจะมองตรงมวลทั้งก้อนคือรถยนต์ หรือตัดพิจารณาเฉพาะแกนเครื่องยนต์ ก็จะได้แรงบิดเป็น”แรง”อยู่ดีครับ… สำหรับพิธีกรที่ว่าทำไมคนถ่ายคลิปฯ ถึงไม่ลงไปช่วยโบกรถให้เธอคนนั้น, นายสมชายตอบให้ว่าเป็นเพราะไม่อยากลงไปทะเลาะกับเธอครับ… ในนั้นไม่ได้บอกว่าย่านแรงบิดสูงสุดกับแรงม้าสูงสุดทับย่านฯ หรือรอบเครื่องใกล้เคียงกันครับ, หากรอบแรงบิดสูงสุดกับแรงม้าสูงสุดอยู่ห่างกันมาก แล้วจุดที่แรงม้าสูงสุดเหลือแรงบิดไม่พอฯ รถคันนั้นจะไปไม่ถึงจุดแรงม้าสูงสุดครับ…
สงสัยนายเจสัน Transporter ตกงานแน่ครับ หุ่นเหมือนกัน, แถมคุณคาร์เป็นนักกีฬายิงปืนทีมชาติอีกต่างหาก… “แรงม้า”คือหน่วยวัดพลังงานที่ปล่อยออกมาในช่วงเวลาหนึ่งครับ ไม่ใช่แรง ดังนั้นแรงม้าไม่ใช่อัตราเร่ง… แต่เป็นพลังงานที่ปล่อยออกมาจากเครื่องในช่วงเวลา(เช่นวินาที)… 2 คันนี้นายสมชายว่าคันเบ็นซินขับง่ายกว่า เพราะไม่ต้องเขย่าเท้า(หรือกระทืบให้คิกดาวน์)ไล่ให้เกียร์ออโต้เปลี่ยนเกียร์…